[SF KyuSeo] ゞใจเธอใจฉัน ♥ - [SF KyuSeo] ゞใจเธอใจฉัน ♥ นิยาย [SF KyuSeo] ゞใจเธอใจฉัน ♥ : Dek-D.com - Writer

    [SF KyuSeo] ゞใจเธอใจฉัน ♥

    ใจสองเรา เคล้าคลอกัน คงนิรันดร์ จนฟ้าดินมลายไป เราซึ้งกัน มั่นฤทัย ไม่มีใครรู้ใจเท่าเรา ~

    ผู้เข้าชมรวม

    1,237

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.23K

    ความคิดเห็น


    13

    คนติดตาม


    8
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ม.ค. 56 / 02:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น




    © Tenpoints!














     









     



     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       

       

      ใจฉันมีแต่เธอ มีแต่เธอคนเดียว  นอกจากเธอไม่แลเหลียวใคร

      ส่วนใจฉันก็มีแต่เธอ มีแต่เธอทุกห้องดวงใจ จะอย่างไรมิแปรฤทัยเปลี่ยนผัน

       

      p.1

                  มหาวิทยาลัยคยองฮี

                  “เฮ้ย! เย็นนี้ว่างมั้ยวะ ไปตีดอทกัน!ลี ฮยอกแจ เอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือคล้องคอเพื่อนรัก อย่าง โจ คยูฮยอน

                  “คงไม่ได้วะ! วันนี้แม่เรียกตัวกลับบ้าน พอดีเพื่อนแม่เขามาบ้านวะ” คนพูด พูดพร้อมกับสีหน้าเบื่อหนาย

                  “เพื่อนแม่ไม่ใช่เพื่อนเราโว้ย! สักตาสองตานะ”  โดนเพื่อนคะยั้นคะยอ คยูฮยอน ก็เริ่มลังเล อันที่จริงก็ยังเหลือเวลาอยู่มากที่เพื่อนรักของแม่จะมาถึงบ้าน ถ้าจะแวะไปตีดอทสักตาสองตาก็คงจะไม่เป็นอะไรละมั่ง

                  “เอาวะ! สักตาสองตา” เขายิ้มก่อนจะโอบกอดคอเพื่อนรักแล้วมุ่งหน้าสู่ร้านเกมส์

       

       

       

       

       

                  “ทำไมตาคยูยังไม่กลับบ้านอีกนะ” คนเป็นแม่บ่นพลางชะเง้อมอง ก่อนจะกลับมาสนใจเพื่อนรักของเธอ  “คยูฮยอนนี่ทำนิสัยเสียจริงๆ ติดงานก็ไม่รู้จักโทรมาบอกก่อน”

                  “หนูว่าคงติดเกมส์มากกว่าละมั่งค่ะ”  ลูกสาวของเพื่อนรักเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกยิ้ม คนเป็นแม่จึงรีบห้ามปราบลูกสาว

                  “อย่าพูดแบบนั้นสิ จูฮยอน ไม่ดีเลย”  ซอ จูฮยอน ปิดหนังสือบันเทิงที่อ่านอยู่ก่อนจะมองคนเป็นแม่

                  “หนูพูดเรื่องจริงค่ะแม่ มันชอบตีดอทตั้งแต่เด็กแล้ว สงสัยจะเรียนจบคณะบริหารเกมส์ สาขาตีดอทเอละมั่งคะ หึ..  ยกยิ้มอย่างน่ารัก ก่อนจะร้องโอ๊ยเพราะถูกคนเป็นแม่ตี  “แม่อ่ะ

                  “ว่าลูกชายเขาแต่จะมาขออาศัยพักบ้านเขา มันไม่มีเลยนะจูฮยอน”

                  “ที่เขาพูดมันก็ถูก อย่าไปว่าเด็กเลย” คุณนายโจยิ้มบาง ก่อนจะรีบลุกยืน “สงสัยมาแล้ว”

                 

                  คยูฮยอนชะเง้อมองเข้ามาในบ้านอย่างกล้าๆกลัวๆ นี่มันเลยเวลาที่แม่นัดมาร่วมสองชั่วโมงกว่า ตั้งใจจะเล่นสักตาสองตาแต่มันก็เลยเถิดเป็นสิบตา เหตุเพราะว่า เอาชนะไม่ได้สักที คนอย่างคยูฮยอนไม่เคยแพ้เกมส์เลยสักครั้ง!

                  “แม่คร้าบบบ”  เสียงขานอย่างน่ารักพร้อมกับกอดประจบประแจง “ขอโทษที่ผมกลับดึกคร้าบแม่”

                  “ไปร้านเกมส์มาละสิเราน่ะ ทิ้งให้ผู้ใหญ่รอมันน่าเกลียดนะ” คนเป็นแม่ดุก่อนจะหยิกที่แขนเบาๆ  “มานี่เลย มาไหว้คุณน้าเขาก่อน”

                  คยูฮยอนเดินตามแม่คอตกเข้ามาในบ้าน ก่อนจะโค้งให้คุณเพื่อนสาวของมารดา และเลยมองไปที่ผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งข้างกัน

                  “เห้ยย! เธอมาบ้านฉันทำไม!?  เขาอุทานพร้อมชี้

                  “บ้านนายอยู่ในป่าเขาหรือไง ฉันถึงมาไม่ได้!  คนตัวเล็กกว่าเถียงกลับ

                  “แม่ดูดิ  คยูฮยอนชี้หน้า ก่อนจะหันมองแม่

                  “อย่าทะเลาะกันสิ! จะรอดมั้ยห่ะมาวันแรกก็ทะเลาะกันเลย” คุณนายโจลากคยูฮยอนไปนั่งโซฟา “จูฮยอนจะมาสอบเข้ามหาลัยในโซลเลยมาขอนอนค้างบ้านเรา ถ้าเกิดสอบติดจะออกไปเช่าหอ แต่ถ้าไม่ติดน้องจะได้กลับมกโพ”

                  “ไม่ติดหรอกหน้างี้โอ๊ย!  คยูฮยอนร้องโอดครวญเมื่อกล่องกระดาษชิดชู่ลอยมากระทบกับหน้าหล่อๆของเขา “อะไรของเธอเนี่ย ยัยจักแร้เหี่ยว!

                  “ห้ามมาดูถูกสมองของฉันนะ ไอ้ก้นกะละมัง!

                  คนเป็นแม่มองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทางที่จะให้ทั้งสองญาติดีกัน

       

                  เรื่องมันมีอยู่ว่า….

                  เมื่อประมาณห้าปีก่อน ครอบครัวของคยูฮยอนกลับไปบ้านสวนของคุณตาในวันปิดเทอมฤดูร้อน วัยรุ่นในช่วงมัธยมต้นปีสามกำลังนั่งหล่อตกปลา ณ  ริมบึง

                  ตอนนั้นจูฮยอนยังอยู่เพียงมัธยมต้นปีหนึ่ง ตัวดำ หูกาง ผมสั้น ที่สำคัญจักแร้เหี่ยว

                  “นายคยูฮยอน!” จูฮยอนยืนเท้าเอวมองเขาตาเขม็ง “ที่นี้ไม่อนุญาติให้ตกปลา”

                  “ฉันไม่เชื่อ ไม่เห็นมีป้ายบอกเลย” ทำหูทวนลมลอยหน้าลอยตา

                  “สามัญสำนึกนะมีมั้ย!?

                  “ก็มันไม่มีป้ายบอกนิหว่า และที่สำคัญตกเล่นแก้เบื่อ เข้าใจอะไรบ้างมั้ย ยัยดำหูหางจั๊กแร้เหี่ยว!

                  “จะตกเล่นหรือตกจริง ก็ไม่ได้! คุณตาสอนฉันเสมอว่าปลาก็มีชีวิตจิตใจ อย่าไปทำร้ายมัน!

                  “เกิดมาไม่เคยกินปลาหรือไง ถามจริง?

                  เออวะ! จูฮยอนหยุดคิด อันที่จริงเธอชอบทานปลาทุกชนิด เจอถามแบบนี้ก็ไปไม่ถูก

                  “เห็นมั้ยละ?! เธอก็กินมัน โธ่! มาทำเป็นคนดีนะยัยดำ”  คยูฮยอนยกยิ้ม “ฉะนั้นอย่ามาสั่งสอนฉัน สวนนี้ของตาฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ หลานนอกคอกอย่างเธอห้ามฉันไม่ได้หรอก”

                  คนตัวเล็กโกรธจนกำมือแน่น “ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้ก้นกะละมัง!” พูดจบก็เดินดุ้มๆออกจากตรงนั้นไป ทิ้งให้คยูฮยอนหัวเราะชอบใจที่ตัวเองเป็นคนชนะ

       

                  กลับมาปัจจุบัน….

                  “แบกบ้านมาหรอวะ?!” บ่นพร้อมกับทิ้งกระเป๋าใบใหญ่ลงบนพื้น

                  “ถ้าแบกมาได้ฉันแบกมาแล้ว ไม่มาอยู่บ้านนายหรอก” จูฮยอนดึงกระเป๋ามาใกล้ตัวก่อนจะเปิดมันออกเพื่อหยิบตำราออกมาจัดบนโต๊ะ

                  “นี่จะสอบจะเข้าคณะอะไร คิดไว้ยัง?

                  “จะเรียนประมง” ตอบเสียงห้วนก่อนจะลุกยืนวางนั่งสือบนโต๊ะและหยิบหนังสือออกจากกระเป๋าสลับกัน

                  “จะเรียนประมง? ฮ่าๆๆๆ”  คยูฮยอนหัวเราะดังลั่น  “ขำวะ! ผู้หญิงเรียนประมง”

                  “ทำไม? ทีนายยังเรียนออกแบบทั้งๆที่ตอนเด็กฝีมือห่วยแตกได้เลย แล้วทำไมฉันจะเรียนประมงไม่ได้!

                  “ก่อนจะเรียนประมงไปทำจั๊กแร้ให้หายเหี่ยวก่อนเถอะ! ฮ่าๆๆๆ”

                  จูฮยอนกำมือแน่นเพราะความโกรธผิดกับอีกฝ่ายที่หัวเราะชอบใจ

                  “ขำมากมั้ยไอ้ตูดใหญ่” เสียงพูดเค้นออกมา “ไอ้เกียม!! แกตาย!!

                  จูฮยอนชี้หน้าก่อนจะพลักคยูฮยอนลงนอนกับพื้นแล้วตัวเองนั่งคล่อม ก่อนจะใช้สองจับหัวแล้วโยนไปโยนมา

                  “ไอ้ตูดใหญ่! ไอ้ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ ไอ้เกรียนไม่เลือกเวลา ฉันจั๊กแร้เหี่ยวแล้วเป็นไงห่ะ ระวังไว้เถอะแก อนาคตจะได้เมียนมเหี่ยว หน้าเหี่ยว เหี่ยวทั้งตัว!! ย่าห์!!

                  จับหัวคยูฮยอนโยกด้วยความบ้าคลั่งจนเสียงดังลั่นบ้าน คนถูกรังแกก็ได้แต่ร้องขอความช่วยเหลือ

                  ด้านล่างคุณนายโจและคุณนายซอเงยมองขึ้นไปก่อนจะมองหน้ากันและถอนหายใจ

                  จะอยู่รอดตอนวันที่ผลสอบออกมั้ย ?  หรือจะต้องมีใครจะคนน่วมก่อนวันนั้น










       

       

       

                  จูฮยอนตื่นเช้าเป็นพิเศษสำหรับวันนี้ เธออาบน้ำแต่งตัวอย่างสบายอารมณ์ เสียงน้ำกระทบพื้นกระเบื้องทำให้จูฮยอนสบายใจ

                  วันนี้ต้องดูดี คุณครูติวเตอร์จะได้ประทับใจ

                  คุณครูติวเตอร์สุดหล่อของจูฮยอน รอก่อนนะค่ะ เดี๋ยวจะเจอกันแล้ว

                  จูฮยอนอมยิ้มอย่างน่ารักก่อนจะปิดน้ำและหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่มาพันตัว และเปิดประตูออกจากห้องน้ำ

       

                  “นี่แม่ให้มาตามลงไปกินข้าวแน่ะเอ่อ  คยูฮยอนกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะมองคนตรงหน้า ผิวขาวดุจหิมะแรกฤดู ริมผีปากสีชมพูอ่อนๆ ตามตัวมีหยดน้ำเปือนอยู่ ทำเอาคนที่เปิดประตูห้องต้องหายใจไม่ทั่วท้อง

                  “กรี๊ดดด!!!!” จูฮยอนแหกปากก่อนจะยกมือปิดหน้าอกตัวเองแล้วหยิบของปาใส่คนที่ไม่ได้เชื้อเชิญ  “แก! เข้ามาไม่เคาะประตู ออกไปเลยนะ กรี๊ดด!!

                  “เห้ย! เดี๋ยวดิ!  คยูฮยอนหลบเป็นพัลวัน

                  “เดี๋ยวอะไรเล่า! นายนี่ไม่มีมารยาทเลยนะ เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูละ!

                  “ก็ใครจะไปนึกละว่าเธออาบน้ำอยู่นะ!” พูดถึงตอนนี้คยูฮยอนก็หน้าแดง

                  “กรี๊ดด!! ออกไปได้แล้ว ออกไป!!!  จูฮยอนปาข้าวของใส่คยูฮยอนโดยที่ลืมสนใจผ้าพันตัวของตัวเองที่ปมมันกำลังจะหลุดและหล่นไปกองอยู่บนพื้น

                  -,.-  คยูฮยอนยืนมองภาพตรงหน้าอย่างละสายตาไม่ได้ เขาไม่เคยรู้เลยว่าเด็กกะโปโลอย่างซอฮยอนจะมีผิวขาวทั้งตัวแบบนี้

                  -[]- !! กรี๊ดดด!!! ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ตูดกะลังมัง!!  จูฮยอนรีบก้มหยิบผ้าขนหนูมาห่อตัวและแผดเสียงไล่คยูฮยอนออกจากห้อง           

       

       

       

       

                  “จูฮยอนหนูเป็นอะไรน่ะ หน้ามุ่ยแต่เช้าเชียว” คุณนายโจถามด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นจูฮยอนเดินหน้ามุ่ยลงมาจากห้อง

                  “เมื่อเช้าหนูเจอคนหื่นกามนะค่ะคุณป้า” จูฮยอนเบนสายตาไปทางคยูฮยอน “ซวยแต่เช้า!

                  “ตายจริง! แถวบ้านเรามีคนแบบนี้ด้วยหรอตาคยู วันหลังช่วยแม่สอดส่องด้วยนะ รู้ไหม?

                  “โธ่! แม่ครับ กะแค่ยัยเหี่ยวตื่นตูมแค่นั้นเองละ อย่าใส่ใจเลยครับ” คยูฮยอนยกยิ้ม แล้วหันไปมองหญิงสาวที่ยืนกระฟัดกระเฟียดด้วยความไม่พอใจ

                  “คุณป้าคะ หนูขอตัวก่อนนะค่ะ วันนี้มีนัดติวนะค่ะ เย็นๆจะกลับนะค่ะ” จูฮยอนบอกก่อนจะโค้งให้แล้วรีบเดินจ้ำออกจากบ้านทันที

                  “นี่! ตาคยู ไปเป็นเพื่อนน้องที เดี๋ยวน้องจะหลง โซลไม่ใช่เล็กๆ”

                  “ครับแม่!  คยูฮยอนยกยิ้มก่อนจะเดินตามจูฮยอนออกไปด้วยสีหน้าอารมณ์ดี

                  “ตามออกมาทำไม?!” เธอแว้ดใส่

                  “แม่บอกให้ฉันไปกับเธอด้วย ท่านกลัวเธอหลง…. โซล”

                  “ฉันไม่ต้องการ ไปเองได้!

                  “งั้นเรื่องเมื่อเช้าอืมม”  คยูฮยอนลูบริมฝีปากตัวเองก่อนจะมองจูฮยอน

                  “นี่นาย! หยุดพูดเรื่องบ้าๆแบบนั้นเลยนะ กรุณาลืมมันไปด้วย!

                  “ยากนะเธอน่ะทั้งขาว ทั้งใส”

                  “โจคยูฮยอน!  จูฮยอนกำมือแน่นก่อนจะสบัดหน้าแล้วเดินนำเขาไปทันที คยูฮยอนอมยิ้มก่อนจะเดินตามคนตรงหน้าไป

                  “แซวเล่นนิดเดียวมาทำโกรธ” อีกฝ่ายเงียบ คยูฮยอนจึงพูดต่ออย่างได้ใจ “นี่ฉันไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใครหรอกน่า รู้กันแค่สองคนพอ”

                  จูฮยอนเดินนำเขาอย่างไม่สนใจ คยูฮยอนสังเกตถึงความผิดปกติ ก่อนจะรีบคว้าไหล่จูฮยอนให้หันมา “เธอเป็นอะไรจูฮยอน

                  คยูฮยอนเรียกชื่อเธออย่างแผ่วเบาเมื่อเห็นคนตรงหน้า ร้องไห้ออกมา

                  “นี่ ร้องไห้ทำไมเนี่ย?

                  “นายคิดว่าเรื่องเมื่อเช้ามันเป็นเรื่องตลกมากนักหรือไง?” จูฮยอนมองหน้าเขา “นายอาจจะเคยเห็นเรือนร่างของผู้หญิงคนอื่นมานับไม่ถ้วน แต่ฉันน่ะ!” จูฮยอนสะอื้นก่อนจะพูดต่อ “ฉันอยากจะเก็บร่างกายของฉันเอาไว้ให้คนที่ฉันรักดูเท่านั้นนะ!

                  “และถ้านายคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องน่าขำ น่าเอามาล้อละก็ก็ทำตามใจนายเลย อย่ามาสนใจฉัน ฉันมันไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่!” พูดจบคนตัวเล็กก็วิ่งหนีเขาไปทันที ทิ้งให้คยูฮยอนยืนอึ้ง

                  นี่เขาทำผิดกับจูฮยอนอีกแล้วหรอเนี่ย

       

       

       

                  ห้างสรรพสินค้ากลางเมือง

                  จูฮยอนเดินเข้ามาในห้างพร้อมกับร่างใหญ่อย่างคยูฮยอน ทั้งสองไม่พูดจากัน มีแต่ความเงียบตลอดที่เดินทางมาที่นี้ คยูฮยอนเองก็อึดอัด เพราะเขาก็อยากจะขอโทษเธอเหมือนกัน

                  “นายรอฉันแถวนี้ก็ได้นะ ฉันจะขึ้นไปติวข้างบน” จูฮยอนเปิดปากบอกกับคยูฮยอน

                  “เลิกเรียนกี่โมง?

                  “บ่ายสอง ไปละ” พูดจบเธอก็วิ่งไปทันที คยูฮยอนมองตามก่อนจะตัดสินใจเดินเล่นภายในบริเวณห้างเพื่อฆ่าเวลารอจูฮยอนเลิกเรียน

       

                  ชายหนุ่มเดินดูของอะไรเรื่อยเปื่อยจนสะดุดกับร่างเล็กที่แสนคุ้นเคยนั่งหัวเราะกับชายหนุ่มหน้าตาดีกันอย่างออกรส

                  รอยยิ้มแบบนั้นของจูฮยอน.. คยูฮยอนไม่เคยได้รับจากเธอเลยด้วยซ้ำ แล้วไอ้หมอนั้นมันเป็นใคร ถึงได้รอยยิ้มน่ารักๆแบบนั้นไปครอบครอง

                  คยูฮยอนขมวดคิ้วก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าไปในร้านนั้นและยืนหน้าบึ้ง “ขอนั่งด้วยคนสิ”

                  จูฮยอนเงยมองหน้าเขาก่อนจะวางปากกาที่ถืออยู่ลงแล้วชักสีหน้า

                  “จะมาก่อกวนอะไรฉันอีก ไม่เห็นหรอไงว่าฉันกับพี่คริสเราติวกันอยู่น่ะ?

                  “เห็น! แต่ฉันเดินรอเธอรอบห้างแล้ว มันเมื่อยนะ ขอนั่งด้วยคนสิ” คยูฮยอนฉีกยิ้มก่อนจะมองไปที่ชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามจูฮยอน “ผมขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับคุณคริส?

                  “เชิญเลยครับ ผมไม่มีปัญหาอะไรหรอก” คริสยิ้มก่อนจะเชิญคยูฮยอนนั่งลง จูฮยอนย่นจมูกก่อนจะหันไปสนทนากับคริสต่อ

                  “สอนต่อเถอะค่ะ กำลังสนุกเลย”  ทุกการกระทำของจูฮยอนและคริสตกอยู่ในสายตาของคยูฮยอนเสมอ และเขามักจะก่อกวนเธอตลอดเวลา จนสุดท้าย คริสและจูฮยอนจึงต้องยกเลิกการสอน และหันมานั่งทานไอศครีมแทน

                  “เจ๋งดีนะครับ ผู้หญิงจะเข้าเรียนประมง พี่ไม่ค่อยเห็นผู้หญิงอยากเข้าคณะนี้เท่าไร” คริสพูดพลางยิ้มน้อยๆแล้วมองคนตรงหน้า

                  “ฉันชอบอะไรแบบนี้นะค่ะ รู้สึกว่ามันสนุกและท้าทายดี” จูฮยอนยิ้ม

                  “แปลกประหลาดละสิไม่ว่า….  คยูฮยอนพึมพำ

                  “หุบปากนายสักนาทีก็ไม่มีใครเขาว่าหรอกนะนายน่ะ” จูฮยอนมองหน้าเขาด้วยสายตาตำหนิ

                  “นี่! กินเร็วๆได้ไหม ฉันอยากกลับบ้านแระ เหนื่อยๆ” เขาบ่น

                  “นายก็โตแล้วนะ แต่ทำไมยังชอบทำตัวเหมือนเด็กไม่หย่านมแบบนี้ห่ะ!” จูฮยอนมองหน้าเขาก่อนจะหันไปหาคริส “เอาไว้วันหลังเรามาติวกันใหม่แล้วกันนะค่ะพี่คริส วันนี้มันมีหมาตามมาเห่า!

                  “แล้วแต่เราเลยครับจูฮยอน”  คริสยิ้มแหย ก่อนจะหันมองหน้าคยูฮยอนที่ไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดของเด็กผู้หญิงตรงหน้าเท่าไร

       

       

       

       

       

       

                  หลายวันผ่านไป

                  คยูฮยอนเดินขึ้นมาหยุดที่หน้าห้องของจูฮยอน มือของเขาจับที่ลูกบิดประตูก่อนจะชะงักและเปลี่ยนเป็นเคาะเรียกเธอแทน

                  ไม่นานนักประตูก็ถูกเปิดออก

                  “มีอะไร?  จูฮยอนโผล่หน้าออกมา

                  “มีเรื่องจะคุยด้วย” คยูฮยอนตอบเสียงเรียบ “เข้าไปได้ไหม?

                  “อืมลงไปรอข้างล่าง เดี๋ยวฉันลงไปนะ” จูฮยอนปิดประตูก่อนจะปล่อยให้คยูฮยอนถอนหายใจและเดินลงไปรอเธอข้างล่าง

       

       

                  จูฮยอนเดินลงมาภายในชั้นล่างของบ้าน คยูฮยอนตอนนี้แปลกกว่าทุกๆวัน หรืออาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เธอยุ่งอยู่กับการติวหนังสือ เลยลืมที่จะสนใจเขา

                  “นายมีอะไรว่ามาสิ?” เธอหยิบหมอนวางบนตักและทำตัวตรง

                  “ติวเป็นไงบ้าง?

                  “ก็ดีนะพี่คริสสอนเข้าใจดี”  เธอยิ้ม รอยยิ้มที่น่ารักผุดขึ้นบนใบหน้าเมื่อพูดถึงชายหนุ่มที่เป็นติวเตอร์ของเธอ

                  “เธอชอบมันใช่มั้ย?” คยูฮยอนหันมาจ้องหน้าเธอ จูฮยอนจึงตาโต “เธอมันเลว เธอใช้ร่างกายเปลือง เธอเป็นของมันไปแล้ว!

                  “อะไรของนายเนี้ยย!  จูฮยอนปาหมอนใส่หน้าคยูฮยอน

                  “ฉันเจ็บ  คยูฮยอนหลับตาพูดเบาๆ จูฮยอนคิ้วขมวด “ฉันไม่ชอบเวลาเธออยู่กับไอ้หมอนั้น ฉันแอบตามเธอไปทุกวันนั้นแระ”

                  “นาย…!

                  “ชั่งเถอะ ถือว่าฉันไม่ได้พูดอะไรไปนะ”

                  “นายคิดว่าฉันชอบพี่คริสหรอ?” จูฮยอนถามก่อนจะมองด้วยสายตางงๆ “คือแบบนี้นะคยูฮยอน

                  “เธอกับเขาก็เหมาะสมกันดีนะ” คยูฮยอนพูดแทรกขึ้นมา “ฉันอวยพรขอให้เธอสมหวัง ดูท่าทางนายนั้นก็จะชอบเธอด้วย”

                  “คยูฮยอน!

                  “ฉันชอบเธอ” คยูฮยอนรีบลุกเดินขึ้นห้องทันทีหลังจากที่พูดจบ ทิ้งให้หญิงสาวนั่งนิ่งอยู่หน้าทีวี พร้อมกับประโยคที่เขาพูดเมื่อกี้ลอยวนไปวนมา

       

       

       

       

       

                  เกือบเดือนแล้วที่จูฮยอนไม่ได้พบปะพูดคุยกับคยูฮยอน เขามักจะออกจากบ้านไปเรียนก่อนเธอตื่นเสมอ หรือบางวันก็พักอยู่ที่หอเพื่อน ตั้งแต่วันนั้น วันที่เขาบอกชอบเธอ

                  “กินสักหน่อยสิลูก ป้าเห็นหนูนั่งเขี่ยมาหลายนาทีแล้วนะ เดี๋ยวจะไปสอบไม่ทันหรอก”

                  นี่เป็นวันสอบของเธอหลังจากที่ติวมาหลายอาทิตย์ จูฮยอนยิ้มแหยๆให้กับแม่ของคยูฮยอนก่อนจะวางตะเกียบลง

                  “หนูไม่ค่อยหิวค่ะ ขอตัวออกไปสอบก่อนนะค่ะ”

                  “อ่า.. จูฮยอนจ๊ะ” แม่ของคยูฮยอนเรียกเธอเอาไว้ก่อนที่ตัวเธอจะก้าวขาออกจากบ้าน แล้วส่งเงินจำนวนนึงให้เธอ “ป้าฝากเงินนี่ไปให้คยูฮยอนหน่อยสิ ไม่ได้กลับมาบ้านหลายวันแล้ว เงินคงหมดแล้ว”

                  แค่พูดถึงชื่อของเขาจูฮยอนก็สะดุดทันทีก่อนจะรับเงินมาแล้วส่งยิ้มให้ “ค่ะ คุณป้า”

                 

       

                  ในขณะที่เดินก็ใจลอยรู้ตัวอีกทีก็มาหยุดอยู่หน้าสถานที่สอบ มหาลัยที่คยูฮยอนเรียนอยู่ จูฮยอนถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปภายในที่เต็มไปด้วยเด็กนักเรียนที่มาสอบเหมือนกับเธอ

                  “จูฮยอน…!   หญิงสาวหันตามเสียงเรียก ก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้  “นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว”

                  “พี่คริสมีอะไรหรือเปล่าคะ?

                  “สอบเสร็จกี่โมงครับ?

                  “ประมาณบ่ายสี่โมงค่ะพี่คริสดูแปลกๆนะค่ะวันนี้”  จูฮยอนหรี่ตามองคนตัวสูงตรงหน้า

                  “ถ้างั้นสอบเสร็จแล้วพี่จะมารับจูฮยอนไปทานข้าวด้วยกันนะครับ ถือว่าเป็นการฉลอง”

                  “พี่คริสคะคือว่า  จูฮยอนกระอักกระอวน

                  “ถ้างั้นตามนี้นะครับ สอบเสร็จพี่จะมารับ ตั้งใจสอบละ” คริสยีผมเธอก่อนจะวิ่งออกไปอย่างอารมณ์ดีผิดกับเธอที่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะหมุนตัวกลับไป

                  “โอ๊ะ! คยูฮยอน”  จูฮยอนฉีกยิ้มกว้างเมื่อพบเขา เธออยากโผกอดเขาเหมือนตอนเด็กๆเวลาที่เขาไปที่บ้านสวนแต่ก็ต้องข่มเอาไว้ ก่อนจะนึกได้และหยิบเงินจำนวนนึงให้เขา “คุณป้าฝากมาให้นายน่ะ”

                  “ขอบใจ” คยูฮยอนรับมันไปก่อนจะยัดมันใส่กระเป๋าโดยไม่สนใจจำนวนเงิน “เธอสอบห้องนี้หรอ?

                  “อื้ม! นาย..สบายดีหรอ?

                  “รีบเข้าห้องสอบได้แล้ว! ฉันเป็นกรรมการคุมสอบห้องเธอ” ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ตอบคำถามของเธอ แล้วยังทำหน้าดุใส่อีกต่างหาก

                  “รู้แล้วละน่า  จูฮยอนหน้ามุ่ย ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาเมื่อนึกอะไรออก “เย็นนี้กลับบ้านพร้อมกันนะ”

                  “ดูเหมือนเธอจะมีนัดนะ” คยูฮยอนหลบสายตาเขาเลยไม่เห็นสายตาที่ผิดหวังของเธอ “รีบๆเข้าไปได้แล้ว”

                  จูฮยอนถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าห้องสอบและประจำโต๊ะสอบของเธอ

                  การได้แอบลอบมองเขาให้ห้องสอบมันทำให้เธอมีความสุขดีถึงเขาจะส่งหน้าบึ้งกลับมาแต่มันก็ทำให้รู้ว่า เขายังมีเธอในสายตาเสมอๆ

                  การที่ทำข้อสอบวันนี้ได้ ต้องยกความดีความชอบให้กับคยูฮยอนซะแล้ว

                  แต่ถ้าเธอสอบติด เธอก็ต้องย้ายตัวเองมาอยู่หอแถวมหาลัยเพื่อสะดวกต่อการเดินทาง

                  ยิ่งคิดก็ยิ่งหดหู่ จูฮยอนเลยฟุบหน้าลงกับโต๊ะหลังจากที่ทำข้อสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ

       

       

       

                  คยูฮยอนลดหนังสือลงเหลือระดับจมูกของเขาก่อนจะมองร่างเล็กที่ฟุบอยู่บนโต๊ะ ใจจริงก็อดห่วงไม่ได้ จูฮยอนมักจะดื้ออ่านหนังสือเกือบเช้า เป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรมั้ย?

                  แต่มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะเข้าไปก้าวก่าย

                  คยูฮยอนถอนหายใจหลังจากที่ออดเตือนการสอบวิชาสุดท้ายดังขึ้น

                  อีกสองอาทิตย์หลังจากนี้ ผลสอบก็จะออก เขามั่นใจว่าจูฮยอนของเขาต้องสอบติดประมงตามที่ตั้งใจไว้ และมันก็คงถึงเวลาที่จูฮยอนจะย้ายออกจากบ้านเขาสักที

                  จะว่าไปมันก็ดี ถ้าตัดใจได้ ก็คงดีกับตัวเอง

                  แต่คยูฮยอนคิดว่ามันคงไม่เป็นแบบนั้น….

                  เขารักจูฮยอน เด็กน้อยแสนซนคนนี้มาตั้งแต่ไปบ้านสวนครั้งสุดท้าย ตอนนั้นจูฮยอนขึ้นมัธยมปลายปีหนึ่งและตัวเขาเองก็กำลังเป็นหนุ่มวัยคะนอง จากที่เคยมองว่าเด็กผู้หญิงตัวดำ ผมสั้น และจักแร้ดำ กลับกลายเป็นว่า จูฮยอนเริ่มเป็นสาว เธอเริ่มดูแลตัวเอง และก็สำรวมมากกว่าตอนเด็กๆ นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คยูฮยอนประทับใจเป็นอย่างมาก

                  จากความผูกพัน จากที่ทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็ก กลับกลายเป็น รักที่ไม่อาจจะถอนตัวได้เลย

       

                  “คยูฮยอน  จูฮยอนโบกมือตรงหน้าเขาก่อนที่ตัวเองจะหลุดจากภวังค์ “เป็นอะไรนั่งเหม่อเชียว”

                  “ปะ..เปล่า..จะไปแล้วหรอ?

                  “อื้ม”  จูฮยอนพยักหน้าก่อนจะหันไปหาคริส “ฉันพาคยูฮยอนไปด้วยได้มั้ยคะ?

                  “พี่ไม่มีปัญหาอยู่แล้วละครับจูฮยอน  คริสยิ้มก่อนจะมองไปที่คยูฮยอน “ว่าไงครับ ไปกับพวกเรามั้ย?

                  “ไปไหนหรอครับ?” คยูฮยอนขมวดคิ้วก่อนจะหันไปหาจูฮยอน

                  “พี่คริสจะเลี้ยงฉลองให้ฉันนะ นายไปด้วยกันนะ ฉันจะได้มีเพื่อนกลับบ้าน” จูฮยอนยิ้มก่อนจะทำหน้าอ้อน “ไปกันนะคยูฮยอนโอป้า”

                  “อ..อื้มม”  เพราะเสียงหวานๆน่าตาน่ารักของเธอทำให้คยูฮยอนตกลงปลงใจอย่างง่ายดายก่อนจะลุกจากเก้าอี้ตามแรงฉุดของเธอ

       

       

       

       

       

       

                  เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง จูฮยอนนั่งชมการแสดงอย่างเพลินตา ผิดกับคยูฮยอนที่มองคนทั้งสองอย่างขัดตา

                  ก็ถ้าจะมาสวีทกัน ก็ไม่จำเป็นต้องชวนกันมาเลยนี่หว่า!

                  “คุณคยูฮยอนครับ”  เสียงของคริสทำให้เขาหลุดจากภวังค์ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ผมมีธุระจะคุยด้วย เชิญคุณด้านนอกสักครู่สิครับ”

                  “อ๋อได้ครับ” คยูฮยอนลุกยืนขึ้นก่อนจะมองไปที่จูฮยอน “นั่งอยู่ตรงนี้นะอย่าไปไหนนะ”

                  “รู้แล้วละน่า รีบไปรีบมาเถอะน่า” จูฮยอนยิ้มก่อนจะกลับไปสนใจดนตรีตรงหน้า

       

       

       

       

       

       

       

       

                  หลังจากที่คุยกับคริสแล้ว คยูฮยอนก็เดินออกมาจากร้านอาหาร ด้วยหัวใจที่เต้นรัว ก่อนจะตัดสินใจนั่งพักที่ม้าหิน พลางนึกถึงคำพูดของคริสที่บอกเขาไม่กี่นาที

       

                  “ผมชอบจูฮยอน วันนี้ผมอยากจะสารภาพรักกับเธอด้วย คุณคยูฮยอนได้โปรดช่วยผมทีนะครับ”

                 

                  มันชั่งเป็นคำขอร้องที่ทำให้เขาหดหู่เหลือเกิน เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่จะบอกรัก เขาก็ยังทำไม่ได้

                  คริสดีทุกอย่าง น่าตาดี การศึกษาดี บ้านฐานะดี และดูแลเอาใจใส่จูฮยอนเป็นอย่างมาก มันก็คงจะดีแล้วถ้าเธอจะได้มีโอกาสกับผู้ชายดีๆอย่างคริส

                  แต่ถ้าเขาได้บอกจูฮยอนสักคำว่ารักเธอจะสนใจมั้ย?  ตัวเขาพอจะมีโอกาสบ้างมั้ย?

       

       

       

       

       

                  “คยูฮยอนกลับไปแล้วจริงๆหรอคะ?” จูฮยอนถามคริสซ้ำหลังจากที่เดินออกมาจากร้านอาหารและใจก็โกรธคยูฮยอนมากที่เขาทิ้งเธอไว้

                  “ครับ, เขาบอกว่ามีธุระด่วนนะ” คริสบอก “จูฮยอน

                  “คะ?  จูฮยอนหันไปมองหน้าเขาก่อนจะมองคนตรงหน้าที่กำลังจับมือเธอขึ้นมา

                  “จูฮยอนรู้ไหมว่าพี่ชอบ….

                  “เฮ้ออคยูฮยอนทำแบบนี้ไม่ดีเลย”  ยังไม่ทันที่คริสจะพูดจบประโยคเธอก็ขัดมาก่อน ก่อนจะปล่อยมือออกจากคริส “แย่จังเลยนะค่ะ”

                  “ใช่ครับ  คริสมองหน้าเธอแต่หญิงสาวก็หลบสายตาของเขา “แย่มาก”

                  ความเงียบเข้าครอบคลุมทั้งคู่ก่อนที่คริสจะเป็นฝ่ายพูดออกมา

                  “พี่ว่าคยูฮยอนโชคดีมากเลยนะครับ”

                  “โชคดี? ยังไงหรอคะ?

                  “จูฮยอน เธอเคยรู้ใจตัวเองบ้างหรือเปล่า?” คริสยกมือพ่าดไหล่ของเธอก่อนจะพูดต่อ “พี่เคยเข้าใจมาตลอดเลยนะ ว่าคนที่อยู่ในสายตาเธอคือพี่ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ใช่”

                  จูฮยอนก้มหน้านิ่ง เธอก็เพิ่งรู้ใจตัวเองไม่นานมานี่เช่นกัน

                  “พี่บอกกับคยูฮยอนว่าพี่จะสารภาพรักเธอวันนี้ เขาเลยเปิดทางให้พี่ได้อยู่กับเธอสองคน”

                  “ว่ายังไงนะคะ?

                  “ครับ ตามนั้น เขาบอกให้พี่ดูแลเธอและพาเธอกลับไปส่งบ้านให้ดี และเขาก็ไป”

                  “ทำไมพี่ไม่รั้งเขาไว้ละคะ?!

                  “เขาไปทางโน่น คิดว่าน่าจะไปสวนที่อยู่ใกล้ที่นี่ ตามไปสิครับ”

                  จูฮยอนรีบวิ่งไปทันทีที่คริสพูดจบ โดยไม่ทันได้ฟังว่าประโยคสุดท้ายที่คริสพูดกับเธอมันคืออะไร

                  “โชคดีนะครับจูฮยอนของพี่

       

       

       

       

       

                  จูฮยอนหยุดวิ่งหลังจากที่มองไปรอบๆที่นี้คือสวนที่คริสบอกไว้และคยูฮยอนอยู่ไหน จูฮยอนเดินตามหาเขาทั้งๆที่ตัวเองก็เหนื่อยจากการวิ่งมาพอสมควรก่อนจะสะดุดกับร่างที่นั่งริมบึง จูฮยอนยิ้มร่าก่อนจะวิ่งไปหาเขา

                  “คยูฮยอน!

                  “เห้ยย! มาได้ยังไงเนี่ย?” คยูฮยอนรีบลุกขึ้น “คริสละ?

                  “เขาก็กลับบ้านเขาไปแล้วละมั่ง ไม่รู้สิ” จูฮยอนยักไหล่ก่อนจะเดินไปนั่งที่ริมบึง “โอ๊ยเหนื่อย”

                  “เหนื่อย?” คยูฮยอนนั่งลงตามก่อนจะขมวดคิ้ว

                  “ฉันวิ่งหานายทั่วเลย ทำไมหนีมาไม่บอกกัน ทิ้งฉันไว้กลับพี่คริสสองคน”

                  “ก็คริสจะสารภาพรักกับเธอนิ จะให้ฉันอยู่เป็นก้างทำไมวะ”

                  “ใช่

                  “แล้วเป็นไงมั่ง”

                  “ก็ดี”

                  “ก็ดี? เห้ยย เธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนเนี่ย ไม่ตื่นเต้นบ้างเลยหรอ?

                  “ฉันเฉยๆนะ ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ถ้าคนนั้นเป็นนายก็ไม่แน่ ฉันอาจจะใจเต้นก็ได้”

                  “หมายความว่าไง?

                  “ตอนที่นายบอกว่าชอบฉัน ถึงมันจะห้วนๆแต่มันทำให้ฉันใจเต้นมาก” จูฮยอนหันมองคยูฮยอนแล้วยิ้ม “พูดอีกทีได้ไหม?

                  “หมายความว่ายังไง?

                  “ฉันเป็นผู้หญิงนะพูดก่อนได้ไง..” จูฮยอนยกมือทัดหูก่อนจะยิ้มอย่างอายๆ คยูฮยอนเลยหลุดยิ้มออกมา

                  “เธอไม่ได้ตกลงคบกับไอ้หน้าหล่อนั้นใช่มั้ย?

                  “เปล่าฉันไม่ได้ชอบเขา”

                  “ถ้างั้น  คยูฮยอนเขยิบเข้าไปใกล้หญิงสาวก่อนจะยกมือโอบไหล่ “ฉันขอเป็นแฟนเธอได้เปล่า?

                  จูฮยอนหลุดขำออกมาเล็กน้อยก่อนที่หน้าของเธอจะแดงเป็นลูกตำลึง

                  “เขินแปลว่าหวั่นไหว คบกันฉันนะ”

                  จูฮยอนหันมองคนตรงหน้าก่อนจะโผเข้ากอด “อื้ออ! ตกลง! ฉันจะคบกับนาย”

                  คยูฮยอนรวบร่างเล็กไว้ในอ้อมกอดก่อนจะกอดแน่น

                  “ฉันรักเธอวะยัยจักแร้เหี่ยว”

                  “ฉันก็รักนายนะไอ้ตูดกะลังมัง

       

                  พระอาทิตย์กำลังตกดินความมืดกำลังจะเคลือบคลาน เช่นเดียวกับความรักของคนทั้งคู่ที่กำลังเริ่มต้น…. ทั้งสองนั่งกอดกันแบบนั้นอย่างไม่รู้จักเบื่อ รอยยิ้ม และ ความสุข มันเบ่งบานอยู่รอบๆตัวของทั้งคู่

       

       

       

       

       

       

       

       

                  “แม่ครับ!” คยูฮยอนกระชับมือหญิงสาวที่อยู่ข้างๆแน่นก่อนจะส่งรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นให้ จูฮยอนได้แต่ก้มหน้าเขินและบีบมือเขาไว้ด้วยความตื่นเต้น

                  “มีอะไรคยูฮยอน และทำไมจับมือกันแบบนั้น?  แม่ของเขาถามด้วยความสงสัย

                  “ผมกับจูฮยอนเรากำลังคบกันฮะแม่!

                  คนเป็นแม่ยกมือทาบอกด้วยความตกใจและมองหน้าเด็กทั้งสองอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

                  “จูฮยอนเรียนจบรบกวนแม่ไปขอเธอกับคุณนายซอให้ผมด้วยนะครับ”

                  คยูฮยอนกระชับมือน้อยของผู้หญิงอันที่เป็นที่รักของเขาก่อนจะมองผู้ให้กำเนิดที่นั่งตะลึงอยู่ที่โซฟา

                  “ผมจะแต่งงานกับจูฮยอนครับแม่!

                  พูดจบร่างสูงก็จับมือเธอวิ่งขึ้นบ้านด้วยกัน ส่วนคนเป็นแม่ได้แต่นั่งช็อคอยู่บนโซฟา

                  “อะไรกัน นี่ไปรักกันตอนไหนเนี่ย! คยูฮยอน! กลับมาคุยกับแม่ก่อน!” คุณนายโจตะโกนตามหลังลูกชาย “ย่าห์! อย่ามีอะไรเกินเลยนะคยูฮยอน! อ่าจริงๆเลยลูกชายคนนี้”

       

                  คุณนายโจล้มนั่งกับโซฟาก่อนจะหยิบยาดมขึ้นมาจ่อจมูกก่อนจะอมยิ้มออกมาอย่างถูกใจ

                  ดีแล้วละรักกันสักทีนะคนเป็นแม่ก็เหนื่อยเป็นนะ







      --------------------------------------------------------------------------------------------------

      ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนนะค่ะ... แต่งจบแล้วแต่อินี่มันลืมโพส = =''
      จบแล้วละ... จบแล้วจริงๆ ขอบคุณสำหรับการอ่านและคอมเม้นทุกเม้นนะค่ะ ~





       

                 
       

                   

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×